Black Death มหาตภัยโรคระบาดยุคกลาง
(ที่มา : https://www.nationalgeographic.com/history/magazine/2015/10-11/fast-lethal-black-death-spread-mile-per-day/ )
โรคระบาดอยู่คู่กับมนุษยชาติมานานัปการ ตั้งแต่ยุคโบราณจนถึงปัจจุบัน การเกิดโรคระบาดเกี่ยวข้องกับชีวิตของมนุษย์เสมอ ต้นเหตุก็มาจากหลายอย่างและคร่าชีวิตของมนุษยชาติไปนับไม่ถ้วน และหากจะกล่าวถึงโรคระบาดที่รุนแรงที่สุดในสุดโลก คร่าชีวิตมนุษย์ไปถึง 75-100 ชีวิตในโลก นับว่าเป็นโรคระบาดที่สร้างความเสียหายให้กับมนุษยชาติมากที่สุด นั้นก็คือ กาฬโรค หรือ Black Death
กาฬมรณะ หรือ มรณะดำ หรือ “The Black Death” เป็นโรคระบาดที่คร่าชีวิตมนุษย์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะชาวยุโรปในช่วง ค.ศ. 1348–1350 มีผู้เสียชีวิตประมาณ 30-60 เปอร์เซ็นของจำนวนประชากรทวีปยุโรป เชื่อกันว่าเริ่มต้นในจีนหรือเอเชียกลางจากนั้นแพร่มาตาม เส้นทางสายไหมและถึงไครเมียในปี 1346 และหมัดหนูน่าจะเป็นตัวนำโรคจากไครเมีย จากนั้นกาฬโรคได้แพร่ไปทั่วเมดิเตอร์เรเนียนและทวีปยุโรป ส่วนสาเหตุนั้นคาดว่ามาจาก"หมัดหนู"เป็นตัวแพร่เชื้อ โดยหมัดหนูติดกับตัวหนูที่อยู่ใต้ท้องสำเภาซึ่งเดินทางไป ติดต่อค้าขายในดินแดนต่าง ๆ และหากย้อนกลับไปจะพบว่า กาฬโรคนั้นมีการขึ้นอยู่ 3 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 ยุคกลางตอนต้น ในสมัยจักรวรรดิโรมันตะวันออก คริสตวรรษที่ 6 ในระหว่างปี ค.ศ. 541-542 เป็นการระบาดที่เรียกกันว่า “กาฬโรคแห่งจัสติเนียน”(Plague of Justinian) และ ช่วงที่ 2 ในคริสตวรรษที่ 14 -19 คนในสมัยคริสตศตวรรษที่ 14 เรียกการระบาดนี้ว่า “Great Pestilence” (โรคระบาดครั้งใหญ่) หรือ “Great Plague” (กาฬโรคครั้งใหญ่) ทำให้ประชากร 2 ใน 3 ของประเทศเสียชีวิต เรียกว่า “Great Mortality” และในค.ศ. 1400 เกิดการระบาดใหญ่ที่กรุงลอนดอนเรียกว่า “The Great Plague of London” มีคนตายถึง 70% จากจำนวนประชากร 450,000 คน เหลือเพียง 60,000 คน การแพร่ระบาดต่อเนื่องมาจนถึงคริสตศตวรรษที่ 17 เรียกกันว่า “แบล็กเดธ” (Black Death) การระบาดในยุโรปในช่วงนี้มีประชากรตายประมาณ 25 ล้านคน ส่วนช่วงสุดท้าย คือ ช่วงที่ 3 ศตวรรษที่ 19-20 ซึ่งเป็นการระบาดครั้งสุดท้าย เริ่มขึ้นที่มณฑลยูนนาน ประเทศจีน ในปี ค.ศ. 1855 มีการแพร่ระบาดไปทั่วทุกทวีปของโลก ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 12 ล้านคน จนถึงปี ค.ศ. 1894 จึงมีนักวิทยาศาสตร์ค้นพบ เชื้อแบคทีเรีย Baicllus pestis เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน (Zoonosis) ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ฟันแทะและหมัด จนมีการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคขึ้นจนถึงปัจจุบัน
กาฬโรคนี้ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าเป็นโรคระบาดชนิดใด เพราะจากการบันทึกของคนในยุคกลาง อาการก็เหมือนกับโรคระบาดหลายชิด ไม่ว่าจะเป็น อหิวาตกโรค ไข้ทรพิษหรือฝีดาษ หรือโรคห่าก็ตามก็ล้วนจะยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า การแพร่ระบาดมาจากหมัดหนูที่อาศัยอยู่กับหนูเป็นตัวแพร่เชื้อ ผ่านการเดินทางไปทั่วโรคโดยเรือสำเภาค้าขาย และติดจากทางอากาศ ซึ่งผู้ที่ได้ติดโรคระบาดนี้จะเสียชีวิตภายในเวลา 2-3 วัน ซึ่งมีเพียงไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นเท่านั้นที่มีโอกาสหายด้วยภูมิคุ้มกันของตัวเอง โรคระบาดครั้งนี้ส่งผลต่อระบบการปกครอง ระบบเศรษฐกิจ และระบบสังคมอย่างมากในโลก
1.มีแผลผุผองตามผิวหนัง ผิวหนังช้ำ และมีสีดำ จึงเป็นที่มาของ Black Death
2. ต่อมน้ำเหลืองโตตามร่างกาย อาทิ คอ รักแร้ ขาหนีบ
สุทัศน์ ยกส้าน. (2551). ตำนานการระบาดของกาฬโรคในยุโรปยุคกลาง. ค้นเมื่อ 09 ตุลาคม 2563, จาก https://mgronline.com/science/detail/9510000085957
อนันตชัย จินดาวัฒน์. (2555). ตำนานยิ่งใหญ่ในหน้าประวัติศาสตร์โลก. กรุงเทพฯ : ยิปซี
ANTONI VIRGILI.(2563).Fast and lethal, the Black Death spread more than a mile per day. Retrieved October 9, 2020, from https://www.nationalgeographic.com/history/magazine/2015/10-11/fast-lethal-black-death-spread-mile-per-day/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น