จูเลียส ซีซาร์ ผู้นำแห่งผู้นำโรมัน

    

(ที่มา : https://www.silpa-mag.com/history/article_33842 )

    เรื่องราวของจักวรรดิโรมันนั้น หากจะกล่าวถึงความยิ่งใหญ่ของมหาบุรุษอันเกรียงไกร ที่สร้างวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ให้กับกรุงโรม เขาคือหนึ่งคนที่มีบทบาทในการทำให้โรมันกลายเป็นมหาอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ของโลก และเป็นต้นแบบให้โลกแทบทุกด้านตราบจนทุกวันนี้ ชื่อของเขา คือ จูเลียส ซีซาร์ (Julius caesar) หรือ กายุส ยูลิอุส ไคซาร์ 

    จูเลียส ซีซาร์ เป็นวีรบุรุษนักรบที่ยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรมันในสมัยโบราณ ชื่อเสียงของซีซาร์ถูกเล่าขานและบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์โลกกว่า 2000 ปีมาแล้ว จูเลียส ซีซาร์เกิดวันที่ 12 กรกฎาคม เมื่อประมาณ 100 ปี ก่อนคริสตกาล ในตระกูลขุนนางเก่าตระกูลหนึ่ง จูเลียสเป็นกำพร้าตั้งแต่เด็กและไม่คิดที่จะเป็นทหาร เขาเพียงอยากทำอาชีพนักกฎหมาย ซึ่งเป็นที่นิยมในยุคสมัยนั้น แต่เหตุการณ์กลับผันเปลี่ยนให้ ซีซาร์ ได้ลิ้มรสการต่อสู้ และมักเข้าร่วมสงครามหลายพื้นที่ เมื่ออายุ 21 เขาได้รับเหรียญกล้าหาญในฐานะที่ได้ช่วยชีวิตนายทหารคนหนึ่งไว้ได้จากการรบ สามารถตีชนะประเทศค่าง ๆ ถึง 300 ประเทศ ได้เมืองต่าง ๆ ไว้ในอำนาจถึง 800 กว่าเมือง ทัพของโรมันได้ชัยชนะตั้งแต่ยุโรปทางตอนเหนือจรดยุโรปตอนใต้ จากสเปนไปจนถึงอาเซียน้อย และเรื่อยไปถึงอียิปต์ เหตุการณ์สำคัญที่สุดในสมัยที่ซีซาร์ครองโรมก็คือ การยกทัพเข้ารุกรานเกาะอังกฤษ ซึ่งทุกครั้งในการรบ ซีซาร์จะเป็นแนวหน้าเสมอและมักไม่ใส่เสื้อเกาะหรือหมวก เพื่อแสดงให้ทหารคนอื่นจดจำเขาได้ ว่าเป็นบุคคลที่มีความกล้าหาญ และไม่กลัวต่อการสงครามใด ๆ นี่คือสิ่งที่ทำให้ทหารโรมันแข็งแกร่ง จนซีซาร์ได้รับความนิยมจากประชาชนกรุงโรม จนได้รับแต่งตั้งให้เป็นกงสุล แต่ไม่นานก็ถูกลอบสังหารในสภาซีเนตโดยบุตรบุญธรรมของตนเอง

ระบบอำนาจการปกครองของโรม

ประกอบด้วย 3 อำนาจใหญ่ที่คอยถ่วงดุลกัน ได้แก่

1) รัฐสภา Senate  เป็นสภาขุนนาง ขุนศึกและชนชั้นสูงของโรม เป็นสภาตัวแทนของคณะพรรคที่กลุ่มอำนาจต่างๆส่งคนเข้ามาดูแลรักษาผลประโยชน์ของพวกเขาที่เป็นส่วนประชากร 10% ของกรุงโรม มี สว.จำนวน 300 คน

2) สภาสามัญ Pleabian council เป็นสภาตัวแทนของพวกชนชั้นล่าง ซึ่งเป็นตัวแทนส่วน 90% ของประชากรโรม สภานี้มีสมาชิกเพียงแค่ 10 คนเท่านั้น แต่มีอำนาจในการวีโต้กฎหมายและการแต่งตั้งกงสุล

3) กงสุล Consul เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร คือนายกรัฐมนตรีนั่นเอง มี 2 คน เป็นระบบให้สามารถดุล-คานกันได้

จูเลียสซีซาร์ได้รับเลือกเป็น กงสุล ของโรมและได้แบ่งอำนาจระว่างคู่สัญญาทั้งสาม คือ เครสซัส และปอมเปย์ ซีซาร์ขยายอำนาจจนเป็นที่อิจฉาของปอมเปย์ จนในที่สุดเกิดสงครามกลางเมืองขึ้น เพื่อชิงดีชิงเด่นในกรุงโรม ในที่สุดจูเลียสก็ได้รับชัยชนะ และได้รับการยกย่องว่าเป็น"ผู้มีอำนาจปกครองโดยเผด็จการโดยตลอดชีวิต"

การปฏิรูปของจูเลียส ซีซาร์ ในฐานะรัฏฐาธิปัตย์แห่งโรม ซึ่งสามารถออกกฎหมายได้ทุกชนิดโดยไม่ต้องผ่านรัฐสภา และได้สร้างประวัติศาสตร์ให้เราได้ศึกษา เห็นถึงการปฏิรูปของซีซาร์ มีดังต่อไปนี้

1) แก้ปัญหาความยากจนในช่วงสงครามกลางเมืองและยุคบ้านเมืองเกิดจราจล
             2) การให้แว่นแคว้นบริวารทั้งหลาย มีการปกครองและการบริหารจัดการที่เป็นอิสระ
             3) สร้างบ้านแปงเมืองขนานใหญ่ มีการขับเคลื่อนโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่เพื่อจ้างงานประชาชน
             4) การออกกฎหมายที่จำเป็น
       5) การใช้มหกรรมการต่อสู้ของเหล่าทาสแกลดิเอเตอร์ เพื่อเป็นเครื่องมือสร้างความบันเทิง ประชานิยม และสร้างประชามติหนุนระบอบการปกครอง
             6) เปลี่ยนระบบปฏิทินจากจันทรคติ มาเป็นสุริยคติ ปฏิทินจูเลียน

    ตลอดระยะเวลาที่จูเลียส ซีซาร์ ทะเยอทะยานสร้างชื่อเสียงและใช้เงินของหลวงจนสิ้นเปลือง เป็นเหตุให้มีการลอบสังหารซีซาร์ในสภาซีเนตในที่สุด แต่กระทั่ง สิ่งที่ซีซาร์ได้ทำและหลงเหลือไว้ให้เป็นต้นแบบตราบจนทุกวันนี้ยังคงมีมากมาย และซีซาร์จะยังคงเป็นทหารที่ได้รับการเชิดชูมากที่สุดในโลกบุคคลเดียว

บรรณานุกรม

พลเดช ปิ่นประทีป. (2561). กลยุทธ์แห่ง จูเลียส ซีซาร์. ค้นเมื่อ 31 สิงหาคม 2563, จาก https://www.csdi.or.th/2018/08/กลยุทธ์แห่ง-จูเลียส-ซีซา/#i-3

อนันตชัย จินดาวัฒน์. (2555). ตามรอยอารยธรรม ตอน กำเนิดอารยธรรม      โบราณ. กรุงเทพฯ : ยิปซี